วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ดื่มน้ำมากเกินไปก็ไม่ดีน่ะ


ก่อนหน้านี้เรามักจะได้ยินคำแนะนำที่ว่า "การดื่มน้ำมาก ๆ นั้นดีต่อร่างกาย" แต่ดูเหมือนว่าคำแนะนำนี้จะค่อนข้างใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว


ทั้งนี้เนื่องจากว่าในระยะหลังมานี้มีข้อโต้แย้งคำแนะนำดังกล่าวนี้มากขึ้น โดยดร.สแตนลีย์ โกลด์ฟาร์บ และดร.แดน เนกัวนู จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐฯ ได้ตรวจสอบเอกสารทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผลต่อสุขภาพจากการดื่มน้ำปริมาณมากในแต่ละวัน

ทั้งคู่ พบว่า คนที่อยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง รวมถึงนักกีฬาอาจต้องการน้ำมากกว่าคนอื่นขณะที่คนที่ป่วยเป็นโรคบางโรคควรดื่มน้ำมากๆ แต่สำหรับคนปกติ การกระทำดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นแต่อย่างใด
นอกจากนี้นักเคมีบำบัดของเยอรมันยังกล่าวว่า การดื่มน้ำที่มากเกินไปนั้นก็เป็นอันตรายเช่นกัน เช่นในหมู่นักกีฬาที่ดื่มน้ำมากเกินไปอาจจะทำให้โซเดียมในร่างกายลดลง แถมการดื่มน้ำมากเกินไปก็ยิ่งทำให้เกิดการกระหายน้ำมากขึ้นด้วย



แต่ทั้งนี้การดื่มน้ำน้อยเกินไปก็ไม่เป็นผลดี เพราะอาจจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำได้ด้วย เพราะฉะนั้นการดื่มน้ำในปริมาณที่พอดี ๆ คือ 6 - 8 แก้ว (ประมาณ 1.2 ลิตร) จะดีกว่าค่ะ


ที่มา fwmail

คิดให้ดีก่อนคิดจะซื้อของ Sale


สาวๆ คนไหนที่ชอบตาโตเวลาเห็นป้ายตัวโตเขียนว่า Sale โดยเฉพาะช่วงสิ้นปีห้างดังต่างๆ ก็ขนเอาสินค้ามากมายมา Sale สาวๆขอช้อปก็พากันไปจับจ่ายซื้อมาอย่างบ้าคลั่ง

ซึ่งบางทีอาจจะทำให้คุณอาจต้องมานั่งเสียใจภายหลังเพราะเ
งินในกระเป๋าหมดไป กับของที่ไม่จำเป็นก็ได้นะค่ะ มาคิดและตังสติกันสักนิดก่อนคิดจะซื้อของ Sale

1. ตั้งเป้าหมายกันหน่อยว่า จะซื้อของขวัญให้ใครบ้าง เขียนรายการเลย นึกไว้ก่อนยิ่งดีว่าจะซื้ออะไรให้ใคร

2. ไม่จำเป็นต้องซื้อของขวัญให้แต่ละคนเฉพาะตัว ขอแนะนำให้ซื้อแบบยกโหลออกแนวของชำร่วย ไปดูแผนกลดราคาที่แต่ละชิ้นไม่แพงมาก จะคุมงบได้ดีกว่า หรือให้แบบชิ้นใหญ่ให้ไปแบ่งกันเอง อย่างขนมต่างๆ

3. ตั้งงบในการซื้อ เวลาไปจริงจะได้ซื้อตามงบ ข้อดีอีกอย่างก็คือช่วยให้ไม่ต้องเผลอซื้อของที่ราคาลดกระหน่ำจริง แต่พอรวมๆ แล้วบานเกินงบไปเยอะ

4. ช่วงเซลล์นี้พยายามไปหาซื้อของคราวเดียวให้จบ หรือไปให้น้อยครั้งที่สุด ยิ่งไปบ่อยยิ่งเผลอซื้อของลดราคาอย่างอื่นพ่วงมามาก แล้วอย่าลืมบวกค่ารถด้วยล่ะ

5. กระบะเซลล์ถูกสุดๆ ใช่ว่าจะมีของคุ้มค่าเสมอไป เพราะคุณมักจะเผลอจ่ายเงินไปกับของที่ไม่ต้องการแต่ราคาถูกยั่วใจมากมายหลาย ชิ้นโดยไม่รู้ตัว

6. ของที่ติดป้ายให้ซื้อหลายๆ ชิ้น อย่างเช่น ราคาปกติชิ้นละ 30 บาท ป้ายลดราคาเขียนว่า ซื้อ 2 ชิ้น 50 คุณไม่ได้ซื้อของถูกกลับบ้าน แต่กำลังจ่ายเงินเกินกว่าตั้งใจไป 20 บาทต่างหาก

7. ของที่มักจะถูกจริงๆ คือของที่จำกัดให้ซื้อ คนละไม่เกินที่ทางห้างร้านกำหนด

8. ของน่าซื้อคือพวกลดล้างสต็อก หรือเสื้อผ้าประเภทหมดฤดูกาล พวกนี้มักจะราคาถูกมากกว่าปกติ

9. ถึงของลดจะยั่วตายั่วใจขนาดไหน แต่ถ้าไม่ใช่ของใช้ประจำวันที่ซื้อมาแล้วใช้จริงๆ ก็ไม่คุ้ม ถ้าเผลอใจซื้อของลดกระหน่ำ ให้ซื้อพวกของกินของใช้ที่ต้องซื้ออยู่แล้วอย่างนี้ถึงคุ้มจริง

10. ดูที่จำนวนเงินที่คุณต้องจ่าย ไม่ใช่เปอร์เซ็นต์ที่ลดราคาลงมา ถึงแม้จะลด 50% แต่ถ้าราคายังแพงอยู่ ควรไปมองหาอย่างอื่นดีกว่า เพราะคุณต้องจ่ายเกินที่ตั้งใจไปมากแน่ๆ

11. อย่าลืมว่าป้ายลดราคาแต่ของไม่ลดจริงยังมีอยู่เสมอๆ

12. ทั้งของใช้ เสื้อผ้า อาหาร ลองมองยี่ห้อโนเนมราคาถูกกว่า แพ็กเกจไม่ค่อยอลังการดูบ้าง อาจจะได้ของคุณภาพดีกว่า เพราะไม่ได้มีค่าโฆษณาหรือค่าแพ็กเกจแพงๆ นำมาห่อเอง

13. เลิกติดอยู่กับยี่ห้อเดิมๆ ลองยี่ห้อใหม่ดู ช่วงปีใหม่จะมีสินค้าใหม่ๆ มาให้เลือกลอง และจะลดราคาถูกจริงเพื่อเรียกลูกค้า

14. เปลี่ยนรสนิยมการซื้อของฟุ่มเฟือย หรือพวกกระเช้าของขวัญแพงๆ มาเป็นของกินของใช้จำเป็นให้เป็นของขวัญบ้าง ราคาถูกกว่าได้ประโยชน์กว่าด้วย

15. อย่าซื้อตอนเหนื่อย เพราะจะซื้อแบบไม่มีจุดหมายแล้วยังลืมเรื่องงบประมาณ

ก่อนออกจากบ้านท่องไว้เลยว่าคุณจะเข้มแข็งเข้าไว้ ไม่ยอมเข่าอ่อนไปกับป้ายลดราคาเด็ดขาด
ขอบคุณข้อมูลจาก FW Mail