It's me
วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันสตรีสากล
วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
Millin แบรนด์แฟชั่นน้องใหม่
คุณมิลิน ยุวจรัส Creative Director สาวดีกรีแฟชั่นจาก Central Saint Martin กรุงลอนดอน ดีไซน์เสื้อผ้าในแบรนด์ชื่อเดียวกันเธอ เล่าถึงคอลเลคชั่นใหม่ว่า "คอลเลคชั่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากยิมนาสติก ปีนี้เป็นปีที่จะจัดโอลิมปิกพอดี ยิมนาสติกเป็นกีฬาที่เหมาะกับสาว Milin เพราะคล่องแคล่ว ปราดเปรียว เสื้อผ้าจะเน้นรูปร่องมากขึ้นเหมือนกับชุดกีฬา ส่วนประกอบอื่นๆ จะเป็นแนว sport glam ลายผ้าใช้สัญลักษณ์ของยิมนาสติกลีลาใหม่ เช่น ลายคทา ลายวงกลม ลายลูกบอลเป็นการใช้ผ้าทอและใช้เทคนิค เลเซอร์คัต"
คีย์ลุคเด่น เช่น การจับคู่เสื้อเข้ารูปกับกระโปรงบานทรงวงกลมที่ถูกนำมาซ้อนทับและขยายให้มีความพริ้วยามเคลื่อนไหวมากขึ้น ดีเทลประดับแบบเสื้อผ้าสปอร์ตแวร์ยังถูกนำมาใช้ในคอลเล็กชั่นนี้ทั้งการซ่อนซิปบนตัวชุด หรือการทริม ขอบชายเสื้อและตกแต่งตัวชุดด้วยผ้ายืดอีราสติกสีสด ในขณะที่ชิ้นเด็ดอย่างกางเกงขาสั้นก็มีการปรับให้กระชับกับสัดส่วนของผู้สวมใส่มากขึ้นกว่าเดิม ชุดกระโปรงแบบต่อชายผ้าหน้าสั้นหลังยาว มีการเล่นกับสัดส่วนและเนื้อผ้าที่หลากหลายขึ้น และมีความเป็นเรขาคณิตด้วยการซ้อนทับเนื้อผ้าสร้างมิติใหม่ๆให้กับชุดกระโปรงสั้น เช่นตัวกับเสื้อสูท และเสื้อแจ็กเก็ตที่ให้กลิ่นอายแบบเสื้อแจ็กเก็ตกีฬาตัวสั้น ในขณะที่ชุดราตรียาวก็เล่นกับการตกแต่งดีเทลเพิ่มความหรูหราและสะดุดตา
"เมื่อมีโอกาสได้ทำเสื้อผ้าทำให้ได้รู้จักกับลูกค้ามากขึ้น เราจะปรับเปลี่ยนทำอะไรใหม่ๆ ให้ลูกค้าเสมอ บางทีลูกค้าเป็นแรงบันดาลใจให้เรา เสื้อผ้าที่เน้นเซ็กซี่ยังไม่ค่อยมีอยู่ในตลาด เลยถูกใจสาวเปรี้ยวๆ หลายคน" คุณมิลิน กล่าวปิดท้าย คอลเลคชั่นใหม่จาก Milin จะเปรี้ยวแค่ไหน สาวๆ อดใจไม่นานเพราะคอลเลคชั่นใหม่จะเข้าร้านกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้
อัพเดตเทรนด์แฟชั่นในปี 2012 ได้กับบทสัมภาษณ์ของ คุณพลพัฒน์ อัศวประภา จากแบรนด์ Asava หนึ่งในสมาชิก Bangkok Fashion Society
มาฟังเพลงที่ช่วยเราผ่อนคลายก่อนนอนกันเถอะ
แบ่งตามขั้นตอนความต้องการที่จะตอบสนองภายนอก(ร่างกาย) สู่ภายใน(จิตวิญญาณ)
Step 5 : เพลง/ดนตรีจากภายในตัวเรา เข้าหลักการ ดนตรีที่อยู่ในร่างกายมุษย์ [Musica Humana] ของบีโอเทียส และ“ดนตรีและศิลปะบริสุทธิ์นั้นมีคุณสนับสนุนความมีจิตว่าง”ของท่านพระพุทธทาส คนทั่วไปที่จะเข้าถึงดนตรีภายในได้นั้นต้องฝึกสมาธิ และสามารถช่วยผ่อนคลายและบำบัดให้หลับได้เต็ม อิ่มหลับลึก และสามารถกำหนดเวลาตื่นได้อย่างน่ามหัศจรรย์
แนวทาง “ดนตรีหรือเพลงแบบไหนที่ช่วยให้เราผ่อนคลายนอนหลับ” ที่นำเสนอนี้ เป็นแนวทางที่ผู้สนใจสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมด้วยตนเองตามความเหมาะสม หลังจากได้ปฏิบัติตามแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับอีก ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อทำการบำบัดรักษา ด้วยวิธีการที่เหมาะสมต่อไป
สิบชื่อเล่นที่บอกชาติต่างชาติเเล้ว เขาก็ยังไม่เข้าใจ
พร (P๐rn)
เป็น ทั้งชื่อเล่นและชื่อจริงของผู้หญิง ซึ่งมีความหมายที่รู้จักกันดีในกลุ่มผู้ชายคือ "หนังโป๊" ว่า ไปแล้วผมเคยมีอาจารย์สมัยมัธยมท่านหนึ่งชื่อ "อัมพร" (I'm P๐rn) มีสามีเป็นฝรั่ง ปัจจุบันได้ลาออกและย้ายไปอยู่ที่แคนาดาแล้ว ทุกวันนี้ผมก็ยังรออยู่ว่าเมื่อไหร่ท่านจะออกผลงานให้ชมกันสักที
น้อย (Noise)
เรียก แค่น้อยเฉยๆ ยังพอเข้าใจ แต่มีผู้หญิงหลายคนชอบออกเสียงกระแดะให้มันอ่านว่า น้อยส์ พวกเธอจะรู้มั้ยนะว่ามันมีความหมายว่า "หนวกหู รบกวน น่ารำคาญ"
ฝรั่งที่จะเอาคุณเธอมาเป็นเมียคงต้องทำใจหน่อยนะ เพราะระยะยาวคุณอาจจะเสียสุขภาพจิตได้
พี (Pee)
ความหมายคือ "ฉี่" ถ้าฝรั่งถามชื่อแล้วเจ้าตัวตอบเป็นชื่อนี้ ฝรั่งอาจจะคิดว่าเธอปวดฉี่ก็ได้
ปู (Poo)
ชื่อนี้มีความหมายว่า "ขี้"
ผม มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งชื่อ ปู พอขึ้นมหา'ลัย เธอเพิ่มคำต่อท้ายเป็น "ปู๋ปู้" มีแฟนเป็นนักศึกษาชาวกรีก ทุกวันนี้ก็ยังคบกันอยู่ คาดว่าหมอนั่นคงจะติดใจรสชาติที่เธอป้อนให้ละมั้ง
ฟัก (F**k)
เอิ่ม...ไม่ต้องบอกความหมายทุกคนก็คงรู้จักกันดี
อย่า หาว่าผมเมคเรื่องขึ้นมาเลยนะ แต่ผมเคยเจอผู้หญิงที่ใช้ชื่อเล่นว่า ฟัก เดินอยู่ในกรุงเทพจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนใช้นามสกุลต่อหน้าหรือไม่ต้องต่อท้ายว่า ฟัก อีกด้วย
ชื่อนี้ฝรั่งคงจะปวดไมเกรนทุกครั้งที่จำเป็นต้องเรียกขานแน่ๆ
ยู (You) แปลว่า = คุณ
"Hello. What's your name?" = สวัดดี คณุชื่ออะไร
"ยู"
"Dante. and your name?" = ดานเต้ แล้ว ชื่อคุณล่ะ
"ยู"
"Dante." = ดานเต้
"ยู"
"I said Dante." = ฉันพูดว่า ดานเต้
"Hey, I had answer, my name's Dante. And what is your name?" = เฮ้, ฉันมีคำตอบ, ดานเต้เป็นชื่อของฉัน และคุณชื่ออะไรล่ะ
"ยู"
"...Forget it." = ลืมมันไปเถอะ
น่าสงสารนายดันเต้ ชาตินี้มันคงไม่รู้หรอกว่าสาวไทยคนนั้นชื่อ ยู
หมี (Me) = ฉัน
"Hello. What's your name" = คุณชื่ออะไร
"หมี"
"Yes." = ใช่
"หมี"
"Yes, I mean you." ใช่ ฉันถามคุณ
"หมี"
"Yeah, can you tell me your name?" = ใช่, คุณบอกชื่อของคุณได้ไหม
"หมี"
"Do you understand English?" คุณไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเหรอ
"หมี"
"...Forget it" ลืมมันไปเถอะ
คราวหน้าน้องหมีคงต้องแนะนำตัวเองว่าชื่อโพล่าแบร์ละมั้ง ฝรั่งถึงจะเข้าใจ
พริกไทย (Pig Thai)
อยู่ เมืองไทยเป็นนักร้องชื่อดัง แต่ไปอยู่เมืองนอก ฝรั่งมองเป็นตัวขี้เกียจ ชีคมองเป็นของเสลง ซึ่งอิมพอร์ตมาจากเมืองไทยซะอย่างงั้น เอิ้ว
ป.ล. เจ้าของบล็อกมีซีดีเพลงของพริกไทยอยู่ที่บ้านด้วยนะเออ
ลูกชิด (Look Sh!t)
มี จริงๆ นะ ผู้หญิงที่ชื่อลูกชิด ตอนแรกที่ได้ยิน ผมเข้าใจว่าเธอชื่อลูกชิ้น ที่ไหนได้ เธอบอกว่าชื่อลูกชิด ที่ใส่อยู่ในเต้าทึงนี่แหละ
ขนาดผมยังรู้สึกแอบปวดตับนิดๆ ตอนที่ต้องเรียกชื่อเธอ แล้วถ้าเป็นฝรั่งจะขนาดไหนนะ
วาย (Why) ทำไม
"Hello. What's your name?" สวัดดี คุณชื่ออะไร
"วาย"
"I'd like to know your name." ผมอยากจะทราบชื่อของคุณ
"วาย"
"Because you're cute, I like you! Can you tell me your name now?" เพราะคุณน่ารัก, ผมชอบคุณ! คุณสามารถบอกชื่อของคุณขณะนี้
"วาย"
"Hey, why didn't you tell me easily?" เฮ้, ทำไมคุณไม่บอกฉันดีๆ ล่ะ?"
"วาย"
"You're annoying me! That's not funny!" เธอน่ารำคาญ ฉันไม่ตลก!"
"วาย"
"...Forget it." ลืมมันไป เถอะ
ทำเอาฝรั่งคิดว่าหล่อนกวนตีนซะงั้น วายเอ๊ย...
ใคร ที่มีชื่อดังที่เขียนไว้ตามที่ว่ามานี้ ลองไปคิดชื่อใหม่ให้ฝรั่งเรียกจะดีกว่านะครับ เห็นเป็นเรื่องขำๆ ก็เถอะ แต่ลองคิดดูสิว่า ถ้าเกิดเราต้องติดต่องานกับฝรั่ง แล้วเราต้องใช้ชื่อที่ติดสแลงฝรั่งแบบนั้น ก็คงไม่ดีแน่ๆ
วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555
อย่าทำ 4 อย่างเเล้วชิวิตจะดีขึ้นในปีนี้
คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น
ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง ‘กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก’ คน
ที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส ‘จิตประภัสสร’ ฉะนั้น จงมองคน
มองโลกในแง่ดี’แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข’
2. อย่ามัวแต่คิดริษยา
‘แข่งกันดี ไม่ดีสักคนผลัดกันดี ได้ดีทุกคน’ คนเราต้องมีพรหมวิหาร 4 คือ
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า
‘เจ้ากรรมนายเวร’ ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น
เราต้องถอดถอนความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น ‘ไฟสุมขอน’ (ไฟเย็น)
เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อน
เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี ‘แผ่เมตตา’ หรือ ซื้อโคมมา
แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป
3. อย่าเสียเวลากับความหลัง
90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ ‘ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น’
มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก
เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย
ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ ‘อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต
มากรีดปัจจุบัน’ ‘อยู่กับปัจจุบันให้เป็น’ ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย
คือมี ‘สติ’ กำกับตลอดเวลา
4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ
‘ตัณหา’ ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี
เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ ธรรมชาติของตัณหา คือ
‘ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม’ ทุกอย่างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่ คุณค่าเทียม เช่น
คุณค่าที่แท้ของนาฬิกา คืออะไร คือ
ไว้ดูเวลาไม่ใช่มีไว้ใส่เพื่อความโก้หรู คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือ
คืออะไร คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ
ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์ เราต้องถามตัวเองว่า ‘เกิดมาทำไม’
‘คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน ‘ตามหา ‘แก่น’
ของชีวิตให้เจอคำว่า ‘พอดี’ คือ ถ้า ‘พอ’ แล้วจะ ‘ดี’ รู้จัก ‘พอ’
จะมีชีวิตอย่างมีความสุข
วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ดื่มน้ำมากเกินไปก็ไม่ดีน่ะ
ก่อนหน้านี้เรามักจะได้ยินคำแนะนำที่ว่า "การดื่มน้ำมาก ๆ นั้นดีต่อร่างกาย" แต่ดูเหมือนว่าคำแนะนำนี้จะค่อนข้างใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ทั้งนี้เนื่องจากว่าในระยะหลังมานี้มีข้อโต้แย้งคำแนะนำดังกล่าวนี้มากขึ้น โดยดร.สแตนลีย์ โกลด์ฟาร์บ และดร.แดน เนกัวนู จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐฯ ได้ตรวจสอบเอกสารทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผลต่อสุขภาพจากการดื่มน้ำปริมาณมากในแต่ละวัน
ทั้งคู่ พบว่า คนที่อยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง รวมถึงนักกีฬาอาจต้องการน้ำมากกว่าคนอื่นขณะที่คนที่ป่วยเป็นโรคบางโรคควรดื่มน้ำมากๆ แต่สำหรับคนปกติ การกระทำดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นแต่อย่างใด
นอกจากนี้นักเคมีบำบัดของเยอรมันยังกล่าวว่า การดื่มน้ำที่มากเกินไปนั้นก็เป็นอันตรายเช่นกัน เช่นในหมู่นักกีฬาที่ดื่มน้ำมากเกินไปอาจจะทำให้โซเดียมในร่างกายลดลง แถมการดื่มน้ำมากเกินไปก็ยิ่งทำให้เกิดการกระหายน้ำมากขึ้นด้วย
แต่ทั้งนี้การดื่มน้ำน้อยเกินไปก็ไม่เป็นผลดี เพราะอาจจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำได้ด้วย เพราะฉะนั้นการดื่มน้ำในปริมาณที่พอดี ๆ คือ 6 - 8 แก้ว (ประมาณ 1.2 ลิตร) จะดีกว่าค่ะ
ที่มา fwmail
คิดให้ดีก่อนคิดจะซื้อของ Sale